วันอังคารที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2554

วิิเคราะห์นโยบายค่าแรง300บาทต่อวัน


การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ให้แรงงานทั่วประเทศ หากรัฐบาลไม่ทำอะไรเลยหรือไม่มีปรากฏการณ์พิเศษใดๆในระบบเศรษฐกิจ สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาแน่นอนหลังการประกาศขึ้นค่าแรงคือ

1. อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น

2.เงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น

อธิบายง่ายๆได้ว่า การขึ้นค่าแรงในระยะสั้น (ขึ้นแบบเฉียบพลัน) โดยทักษะคนงานจะมีเท่าเดิม ไม่ได้เพิ่มตามไปด้วย เช่น เมื่อวานเคยทำงานได้ 10 ชิ้น พรุ่งนี้ก็ทำงานได้ 10 ชิ้น เหมือนเดิม แต่ได้ค่าแรงมากขึ้น ผลก็คือนายจ้างอาจต้องไล่คนออกเพื่อควบคุมต้นทุน หรือ ต่อให้นายจ้างไม่ไล่คนออก การรับคนเพิ่มก็จะทำได้ยากขึ้น คนที่ทำงานอยู่เดิมก็จะต้องทำงานหนักขึ้น งานหายากขึ้น คนตกงานเพิ่มขึ้น

หรือกรณีเงินเฟ้อ ก็อธิบายได้ง่ายๆว่าในเมื่อต้นทุนค่าแรงสูงขึ้น โรงงานก็ต้องขึ้นราคาสินค้าเพื่อให้ได้กำไรเท่าเดิม หรือ ต่อให้โรงงานไม่ขึ้นราคาสินค้า ค่าแรงขั้นต่ำที่สูงขึ้น ก็จะทำให้ ค่าเสียโอกาสของคนอีกหลายกลุ่มเพิ่มขึ้น เพราะ ค่าแรงก็คือ ราคาอย่างนึง แถมเป็นราคาต่ำที่สุดที่เป็น ฐานของเศรษฐกิจทั้งระบบ

จากกรณีที่กล่าวมาข้างต้น ย่อมทำให้เกิดเงินเฟ้อแบบผสม (Mixed Inflation) เป็นเงินเฟ้อที่เกิดจากทั้งอุปสงค์รวมสูงขึ้น (Demand-Pull Inflation) และอุปทานรวมลดลง(Supply-Push Inflation)เนื่องมาจาก

- เมื่อคนงานถูกขึ้นค่าแรงให้สูงขึ้นเพื่อชดเชยรายได้ที่แท้จริง ทำให้อุปสงค์รวมของสินค้าสูงขึ้น(AD สูงขึ้น) ส่งผลให้ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้นด้วย

- ขณะที่ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น ย่อมทำให้ ( AS ลดลง )


ยกตัวอย่างพร้อมภาพประกอบ

1.การเพิ่มค่าแรงให้ลูกจ้าง ลูกจ้างจึงมีเงินเพิ่มขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นลูกจ้างมีกำลังในการจ่ายเพิ่มขึ้น (เกิด Demand curve shift สูงขึ้น) จะเห็นได้ว่าราคาดุลยภาพ จะขึ้นไปอยุ่ที่จุด E2จากจุดE1 และเพิ่มขึ้นจนถึงจุดE3 ณ ระดับการจ้างงานเต็มที่
2.แต่นายจ้างหรือผู้ประกอบการ ต้องแบกภาระต้นทุนด้านค่าแรงขั้นต่ำที่สูงขึ้น ทำให้นายจ้างจำเป็นต้องลดต้นทุนการผลิต ด้วยการลดจำนวนพนักงาน(เกิดปัญหาการว่างงาน) นั่นหมายถึงกำลังการผลิตเต็มที่ย่อมลดลง ดังนั้น ความต้องการขายจึงลดลง (
supply curve จะต้องshift ลง)จาก AS1 เป็น AS2 ดังนั้นราคาดุลยภาพจึงขึ้นไปที่จุดE4

จะเห็นได้ว่า2เหตุการณ์ข้างต้นราคาของ มีแต่จะเพิ่มขึ้น เนื่องมาจากผู้ประกอบการสามารถผลักภาระราคาต้นทุนสูงให้ผู้บริโภคได้ และกรณี Demand curve shift สูงขึ้นอีก ราคาจะยิ่งเพิ่มสูงมากกว่ามาก เนื่องมาจาก กำลังการผลิตเต็มที่ จะอยู่ที่จุด Q3 เท่านั้น

หรือยกตัวอย่างที่ผู้ประกอบการไม่ได้ผลักภาระราคาต้นทุนสูงให้ผู้บริโภค เช่น

สมชายทำงานโรงงาน ได้เงินวันละ 150 บาท ซื้อส้มตำกินทุกวัน
สมศรี ขายส้มตำรถเข็นอยู่หน้าโรงงานทุกวัน หักลบกลบหนี้แล้วได้กำไรวันละ 250 บาท

อยู่มาวันนึง สมชาย ได้เงินเพิ่มเป็นวันละ 300 บาท สมศรี เลยคิดหนัก เพราะจะเหนื่อยลงทุนลงแรงขายส้มตำทำไม ในเมื่อเลิกขายแล้วไปทำงานโรงงานก็ได้ 300 บาทมากกว่าเดิมอีก แล้วไหนจะค่าจ้างที่จ่ายให้เด็กล้างจานที่ต้องเพิ่มให้เขาด้วย ไม่งั้นเขาก็ออกไปทำโรงงานเหมือนสมชาย

สมศรี มีสองทางเลือก คือ 1.ขึ้นราคาส้มตำให้สมกับ ค่าเสียโอกาสของตัวเอง หรือ 2.เลิกขายส้มตำ ไปทำงานโรงงานแทน

ทั้งสองทางเลือก ล้วนทำให้ราคาส้มตำ เฟ้อเพราะอย่างแรกส้มตำแพงขึ้น ส่วนอย่างหลังคือ supply ส้มตำลดลง ดังนั้นส้มตำจะหายากขึ้น สมชายมีเงิน แต่ไม่มีส้มตำกิน ย่อมส่งผลให้ผู้ประกอบการขายส้มตำรายอื่นสามารถขึ้นราคาส้มตำได้ เนื่องมาจาก ความต้องการ demand curve ที่มากขึ้น แต่supply ลดลง

จะเห็นว่าทั้งสองกรณีทำให้ ราคาส้มตำเฟ้อโดยที่ นายทุนโรงงานไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ

ผลกระทบของเงินเฟ้อ

1.อำนาจการซื้อลดลง

- ก๋วยเตี๋ยวราคาชามละ 50-60 บาท จากเดิมชามละ30บาท

2.การออมและการลงทุนลดลง

- เนื่องมาจากเงินที่เหลือจากการใช้จ่ายลดลง เพราะของแพง ทำให้ธนาคารมีเงินที่จะปล่อยกู้น้อย ส่งผลให้ดอกเบี้ยสูง และการลงทุนจึงลดลง

3.การกระจายรายได้เกิดความเหลื่อมล้ำมากขึ้น

-นักเก็งกำไร ลูกหนี้ จะได้เปรียบ ส่วนผู้มีรายได้ประจำ เจ้าหนี้ จะเสียเปรียบ

4.ฐานะการคลังของรัฐบาลแย่ลง

-เนื่องจากรายได้ส่วนใฟญ่มาจากการเก็บภาษี แต่เนื่องจากการลงทุนลดลง ทำให้ภาษีที่ได้มีค่าลดลงด้วย

5.การส่งออกของประเทศลดลง การนำเข้าเพิ่มขึ้น

-เนื่องจากการลงทุนในประเทศลดลง ทำให้สินค้าบางอย่างขาดแคลน จึงต้องมีการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศแทน

วิธีการแก้ปัญหา

จากนโยบาย 300 บาท ส่งผลให้ ลูกจ้างมีกำลังซื้อมากขึ้น แต่ผู้ประกอบการจะมีต้นทุนที่สูงขึ้นด้วย ดังนั้นรัฐบาลสามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการได้โดยการ

1.ใช้นโยบายการเงิน

- เพิ่มสินเชื่อให้ผู้ประกอบการ(ดอกเบี้ยลดลง) ย่อมส่งผลให้ต้นทุนการผลิตลดลง จึงทำให้เกิดความต้องการขายทั้งประเทศสูงขึ้น( AS curve เพิ่มสูงขึ้น)

2.ใช้นโยบายการคลัง

-ลดภาษีผู้ประกอบการที่ให้ค่าแรง300บาท ย่อมส่งผลให้ต้นทุนลดลง ดังนั้น AS curve เพิ่มสูงขึ้น






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น